เครื่องตรวจจับการระบายก๊าซแอมโมเนีย Ammonia Vent Line Gas Detector

เครื่องตรวจจับการระบายก๊าซแอมโมเนีย Ammonia Vent Line Gas Detector

“สำหรับผู้ที่ไม่ต้องการติดแอมโมเนียเซ็นเซอร์ตามจุดเสี่ยงต่างๆ เรามีแอมโมเนียเซ็นเซอร์สำหรับติดตั้งภายนอกอาคาร ซึ่งสามารถนำมาติดตั้งที่ จุดระบายแก๊สนอกอาคารได้เลย เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้ที่มีประเด็น เรื่องสิ่งแวดล้อม เรื่องการศึกษาผลกระทบกับสิ่งแวดล้อม หรือได้รับการร้องเรียนจากชุมชนโดยรอบ ในเรื่องแอมโมเนีย แอมโมเนียเซ็นเซอร์ตัวนี้ สามารถใช้เป็นตัวตรวจจับปริมาณแอมโมเนียที่ระบายออกจากระบบ และใช้เป็นตัวเก็บข้อมูลรายงานผลประจำวันได้เลย”

 

The LPT‐A Vent Line Ammonia Transmitter (LPT‐A‐VLT‐NH3‐S) ได้รับการออกแบบมาสำหรับการตรวจสอบระดับแอมโมเนีย (Ammonia)
อย่างต่อเนื่องในช่องระบาย (Vent) ของระบบทำความเย็นที่เกิดจากความล้มเหลวของอุปกรณ์หรือระบบแรงดันเกิน การรั่วไหลของสารทำความเย็นอย่างช้าๆเมื่อเวลาผ่านไปจะทำให้อันตรายอาจเกิดขึ้นได้หากมีค่าสูง เนื่องจากการปลดปล่อยความดัน โดยปกติแล้วการปล่อยของก๊าซตามปกติจะถูกจัดการโดยคอมเพรสเซอร์แอมโมเนีย (Ammonia)แต่การปล่อยก๊าซที่มากเกินความสามารถของคอมเพรสเซอร์จะเข้าไปในช่องระบาย (Vent) และอาจทำให้ก๊าซจำนวนมากเดินทางขึ้นไปตามแนวระบายและปล่อยการระบายออก

นอกจากนี้แอมโมเนีย (Ammonia) ที่มีความเข้มข้นสูงกว่าปกติอาจเกิดจากการทำงานของวาล์วผิดพลาด, อุปกรณ์ชำรุด, สึกหรอ, สารปนเปื้อน, หรือระบบแรงดันเกิน หากไม่มีมาตรการป้องกันด้านความปลอดภัยแอมโมเนีย (Ammonia)ในระดับที่เป็นอันตรายจากการทำงานผิดพลาดของอุปกรณ์ หรือแรงดันสูงเกินไปอาจทำให้เกิดการระเบิดและเป็นอันตรายต่อสุขภาพของคนในชุมชน หรือผู้คนในบริเวณโดยรอบ

VLT ให้การตรวจสอบระดับแอมโมเนียในช่องระบายอากาศแบบเรียลไทม์อย่างต่อเนื่อง สามารถกำหนดค่าให้ส่งสัญญาณเตือน ตามจุดที่กำหนดไว้ล่วงหน้า (แนะนำให้ใช้ 1.0% / 10,000 ppm) และส่งสัญญาณอนาล็อกเพื่อเปิดใช้งานแฟลชระยะไกล หรือสื่อสารกับคอนโทรลเลอร์หรือ PLC เพื่อเปิดใช้งานหรือปิดอุปกรณ์ตามต้องการ

LPT‐A Vent Line Ammonia Transmitter (LPT‐A‐VLT‐NH3‐S) อาจติดตั้งบนช่องระบายอากาศเหนือวาล์วที่ปล่อยระบายแรงดันโดยใช้ข้อต่อหลักขนาด 3-4 ฟุต เว้นแต่สัมผัสกับก๊าซแอมโมเนียที่มีความเข้มข้นสูงมากเป็นเวลานาน เซนเซอร์ดังกล่าว ควรมีอายุมากกว่า 3 ปี ขึ้นไป

VLT แทบจะไม่มีการบำรุงรักษา แต่จำเป็นต้องถอดส่วนขนาดของท่อเพื่อเข้าถึงเซนเซอร์ระหว่างการสอบเทียบ การทำ Bump test ควรทำทุกเดือน และสอบเทียบ (Calibration) เต็มรูปแบบทุกปี เว้นแต่เหตุการณ์ที่สัมผัสกับก๊าซที่สำคัญ หลังจากนั้นจึงทำการ Bump test และสอบเทียบ (Calibration) เพื่อให้มั่นใจว่าอุปกรณ์ทำงานถูกต้องและเซนเซอร์ไม่ได้รับความเสียหาย